วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

ศาสตร์แห่งการสร้างเสน่ห์


          ต่อให้คนสวยมีหน้าตาเป็นต่อสาวขี้ริ้วขี้เหร่แค่ไหน แต่ใช่ว่ามนุษย์ทุกคนจะมัวมะรุมมะตุ้มรุม รักสาวสวยหรือคนหน้าตาดี เพียงฝ่ายเดียวก็หาไม่... สาวหน้าตาธรรมด๊า ธรรมดาก็มีสิทธิ์เป็นที่เตะตาต้องใจของใครสักคนได้เหมียนกัน แถมเผลอๆ สาวหน้าตาแค่ "พอดูได้" แต่ "มีเสน่ห์" แอบแฝงอาจเป็นนางกวักดึงดูดให้ใครๆ อยากเข้ามาเสวนาใกล้ชิดสนิทสนมมากกว่าคนสวยเสียด้วยซ้ำ
          ใน The Art Of Charm หรือ ศาสตร์แห่งการสร้างเสน่ห์ บอกเคล็ดลับให้ผู้หญิงที่ไม่ได้ งามล้ำเลิศ เกินผู้ใดในปฐพี ให้กลายเป็นเทพีในดวงใจของคนรอบข้างได้ไม่ยาก งั้นมาเรียนรู้เรื่องทำ เสน่ห์ยาแฝดอย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้ใจจากใครๆ กันดีกว่า


         

 ข้อที่   1. บอกว่า คนมีเสน่ห์ย่อมรู้ว่า คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวให้เป็นสาวเซ็กซ์ หรือร่านสวาท หญิงมีเสน่ห์อาศัยแค่เล่นหูเล่นตา หรือใบหน้าชวนรับแขก ชวนให้ใครๆ อยากเข้าใกล้เธอก็พอแล้ว
          ข้อที่   2. คนมีเสน่ห์ รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา เข้าตำราคำนึงถึง ความรู้สึกของผู้อื่นนั่นเอง
          ข้อที่   3. มีทักษะยอดเยี่ยมในการติดต่อสื่อสารหรือผูกมิตรกับคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าหรือคุ้นเคยก็ตาม
          ข้อที่   4. อย่าทำตัวเป็นคนมีเสน่ห์จนเกินเหตุ เค้าว่า ความสำเร็จของสาวๆ ที่มีพลังดึงดูดสูงอยู่ตรงที่คุณควรทำตัวให้เป็นธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
          ข้อที่   5. มีมารยาทดี ไม่ใช่ทำตัวเป็นคนถ่อยเพราะสันดานมันรั้งไว้ไม่ไหว
          ข้อที่   6. ทำให้คนรอบข้างมีความรู้สึกดีๆ และสบายอกสบายใจ ที่จะคบหาสมาคมด้วย
          ข้อที่   7. อย่าคุยโอ่ ถมทับคนอื่น แต่ควรหุบปากแล้วตั้งใจฟังคู่สนทนา ของคุณบ้าง
          ข้อที่   8. มีความมั่นใจในตัวเอง อย่าทำตัวเป็นคนขี้ลังเล, หลุกหลิกหรือไม่แน่ใจอะไรต่อมิอะไรสักอย่าง
          ข้อที่   9. อย่าลืมร่วมแสดงความคิดเห็น ต่อหัวข้อที่กำลังสนทนากันอยู่ ไม่ใช่ เอาแต่เออออห่อหมก อยากเป็นสาวเจ้าเสน่ห์ทั้งที แค่ทำ ตามนี้ให้ได้ เรื่องสวยไม่สวยก็ไม่ต้องไปสนมันแล้ว


อ้างอิง     http://www.clinicrak.com/messages/viewmessage.php?id=2073&maintype=บทความเกี่ยวกับวัยรุ่น

เลือกสร้อยคอให้เหมาะกับคุณ

                         สร้อยคอ เครื่องประดับจำเป็นสำหรับคุณผู้หญิงทั้้งหลาย ไม่ว่าจะรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ต่างก็นิยมการใส่สร้อยควบคู่ไปกับการสวมใส่เสื้อผ้าสวยๆ พูดถึงแฟชั่นสร้อยคอปัจจุบันมีให้เราเห็นมากมายทีเดียว มีทั้งสร้อยประเภทลูกปัด หิน แร่ เครื่องเงิน ลูกปัดพลาสติก คริสตัล และแบบอื่นๆ อีกมากมาย แถมสมัยนี้ยังมีสร้อยดีไซน์เก๋ไก๋ แปลกๆมากมายจากเหล่าดีไซน์เนอร์วงการแฟชั่นที่ช่างสรรหา สร้อยคอรูปแบบแปลกใหม่เก๋ไก๋ มานำเสนอกัน แต่คุณผู้หญิงรู้ไหมค่ะ? การจะใส่สร้อยคอให้สวยงามก็มีสิ่งที่คุณผู้หญิงควรคำนึงถึงด้วยนั่นก็คือ ลักษณะและช่วงคอของผู้ที่สวมใส่่นั่นเอง ซึ่งการใส่สร้อยที่ดีควรรับกับ ช่วงคอ หน้าอก และหน้าตา รวมถึงเสื้อผ้าที่คุณผู้หญิงสวมใส่ด้วยค่ะ



ช่วงคอสั้น

สำหรับคุณผู้หญิงคนไหนที่เป็นคนคอสั้น หรือไม่ค่อยมีคอก็สวยได้ค่ะ ลองหาแบบสร้อยที่ไม่เล็กไป เช่น เป็นแบบห่วง แบบแบบเส้นที่ยาวลงมาหน่อยก็ได้ ไม่ต้องยาวมาก ประมาณแค่หน้าอก หรือถ้าแบบสั้นก็สั้นประมารแค่ไหปลาร้าของคุณผู้หญิงก็พอ หรือใส่แบบเป็นห่วงจี้ของสร้อยต้องดูยาวลงมาเล็กน้อย ขนาดเส้นของสร้อยหรือเครื่องประดับไม่ควรใหญ่มากขอเน้นเป็นแบบขนาดกลางก็พอค่ะ
ข้อห้ามและควรระวังสำหรับคุณผู้หญิงที่มีช่วงคอสั้น คือ
อย่าใส่แบบโชคเกอร์ที่มีขนาดใหญ่มากๆ เพราะจะเป็นการทำร้ายช่วงคอให้ดูสั้นไปอีก หรือถ้าอยากใส่จริงๆ ให้หาแบบที่มีดีไซน์ดูบาง โปร่ง ขนาดพองามไม่ใหญ่จนเกินไป แบบเสื้อที่ใส่ก็ควรดูว่าเราจะไปงานไหน เช่นไปงานดินเนอร์ต้องใส่ชุดราตรียาว ให้เลือกชุดที่เปิดช่วงบนจนถึงเนินอกจะดูดี แล้วจะใส่โชคเกอร์แบบติดคอเลยก็ยังได้ค่ะ

ช่วงคอยาว

สำหรับคุณผู้หญิงที่มีช่วงคอยาวกว่าปกติ ควรหาสร้อยแบบโชคเกอร์ที่ขนาดใหญ่ ดูเก๋ เป็นพิเศษ หรือจะเป็นแบบเส้นห้อยธรรมดา แต่ไม่ยาวมาก ใส่คล้องเป็นสองชั้น ชั้นในติดคอหรือไม่ติดก็ได้ หรือจะให้ชั้นในอยู่ระดับของไหปลาร้าและเส้นนอกทิ้ง ยาวลงมาตามลำดับแต่นี้ ผู้หญิงช่วงคอยาวก็จะดูสวยเก๋ เท่ห์ได้แล้วละคะ
ข้อห้ามและควรระวังสำหรับคุณผู้หญิงที่มีช่วงคอยาว คือ
อย่าใส่สร้อยที่ยาวจนเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ช่วงลำคอของคุณผู้หญิงดูยาวขึ้นอีกค่ะ แบบเสื้อที่ใส่ ควรใส่เสื้อปิดคอเจะบริเวณเนินอก เพื่อโชว์เครื่องประดับ

ช่วงคอกว้าง (คอใหญ่)

คุณผู้หญิงคนไหนที่เป็นคนคอกว้างหรือคอใหญ่ ให้ใส่สร้อยที่มีระดับยาวลงมาราวช่วงร่องอก แบบเส้นเดียว ขนาดลูกปัดควรเป็นแบบยาว หรือวงรี
ข้อห้ามและควรระวังสำหรับคุณผู้หญิงที่มีช่วงคอกว้าง (คอใหญ่) คือ
ไม่ควรใช้ลูกปัดแบบเม็ดกลมใหญ่ เพราะใส่แล้วจะยิ่งทำให้คอดูใหญ่ขึ้น และห้ามใส่แบบโชคเกอร์ถ้าอยากใส่จริงๆ ให้คุณผู้หญิงลองหาเป็นดีไซน์แบบโปร่งบาง ควรใส่เสื้อผ้าที่เปิดบริเวณช่วงบนเนินอก จะได้ดูรับกันและไม่อึดอัดค่ะ

ช่วงคอเล็ก

คุณผู้หญิงที่ช่วงคอเล็กให้หาสร้อยแบบโชคเกอร์ดูกว้างและใหญ่กว่าจริงใส่เน้นพอดีคอ ไม่รัดเกินไป ลองเลือกดูตามใจชอบไม่ว่าจะเป็น ลูกปัดเม็ดใหญ่ เม็ดกลม หรือแบบเหลี่ยม จะเป็นแบบห้อยแบบจี้ที่ดูสวยเป็นพิเศษ
ข้อห้ามและควรระวังสำหรับคุณผู้หญิงที่มีช่วงคอเล็ก คือ
ห้ามใส่แบบเป็นลูกปัดเล็กๆ เส้นยาวๆ เพราะยิ่งจะทำให้ช่วงคอดูแคบและเล็กไปกันใหญ่ทีเดียวงานนี้ เสื้อผ้าที่สวมใส่ ใส่กับเสื้อผ่้า ชุดที่มีการระบายการจับจีบ แล้วใส่สร้อยทับด้านนอก


วิธีการเลือกชุดทำงานที่เหมาะสมกรณีที่ไม่มีชุดยูนิฟอร์ม

ในการเลือกเสื้อผ้าชุดไปทำงานจะต้องพิจารณาหลักใหญ่ๆ 3 ข้อ ได้แก่
1. สไตส์การแต่งกาย
 หากไม่มีกฎเกณฑ์บังคับเคร่งครัด สามารถเลือกเสื้อสูทกับกางเกงคนละสีได้แต่ถ้าหน่วยงานนั้นมีกฎเกณฑ์ให้ใช้สูทกับกางเกงสีเดียวกัน เสื้อตัวในใช้สีอ่อนและควรจะเป็นโทนสีเย็น
 เสื้อเชิ้ต และเสื้อครึ่งท่อนสำหรับผู้หญิงที่เป็นชุดทำงานควรจะเป็นแบบเรียบๆ ไม่สมควรประดับลูกไม้จนรุงรังหรือติดระบายจนรู้สึกรุ่มร่าม ผู้หญิงควรเลือกเสื้อแขนยาวเป็นหลัก และหลีกเลี่ยงเสื้อคอคว้านลึก ผู้ชายควรจะเลือกเสื้อเชิ้ตที่ไม่เน้นลำตัว เสื้อเชิ้ตควรเป็นเสื้อแขนยาวเสมอสิ่งที่ไม่เหมาะใช้ในที่ทำงานคือเสื้อยืดรัดรูป (สตรี) หรือสเวตเตอร์ ไม่เหมาะสมจะเป็นชุดใส่ไปทำงาน เพราะเสื้อยืดรัดรูปจะเน้นสัดส่วนเรือนกายให้เด่นชัด หากจะนำมาใช้กับชุดทำงานจะต้องมีสูทใส่ทับอีกชั้น
กางเกง ผู้หญิงไม่ควรจะสวมกางเกงไปทำงาน ( เว้นแต่กรณีอากาศหนาว หรือในบริษัทไม่มีกฎเกณฑ์บังคับ ) คุณอาจจะรวมกางเกงไว้กับเสื้อผ้าทำงานชุดหลักก็ได้

2.ความประณีตในการตัดเย็บเสื้อผ้า

ความประณีตในการตัดเย็บเสื้อผ้าที่มีคุณภาพนั้น จะต้องคงรูปตามเดิมอยู่ได้เป็นเวลาหลายปี จะสังเกตเห็นฝีมือและความประณีตในการเย็บเสื้อผ้าได้จากสิ่งเหล่านี้ เช่น
 1. ปกและคอเสื้อ ควรจะตั้งขึ้น พับลงหรือติดแนบกับตัวเสื้อตามแบบที่ผู้ออกแบบกำหนดและเมื่อผ่านการซักรีดเพียงครั้งหรือสองครั้ง ปกและคอเสื้อไม่ควรเสียงรูปทรง ควรตรวจดูว่าของตะเข็บของปกเสื้อได้เย็บซ่อนไว้อย่างเรียบร้อย
 2. แผ่นรองซับในควรจะทำด้วยวัสดุที่คงรูปร่างได้ดี เมื่อลองใช้มือขยำเสื้อดู แผ่นรองซับในที่ทำด้วยวัสดุที่ดีก็ควรจะคืนรูปได้ดังเดิมทันที
 3. ซิปและรังดุม ควรตรวจดูว่าไม่มีรอยย่นตามขอบซิป ไม่จำเป็นต้องสนใจกระดุมมากนักเพราะส่วนใหญ่เราจะดึงออกและติดเม็ดใหม่แทน แต่ที่รังดุมควรจะดูให้ดีว่าเย็บไว้เรียบร้อยดีหรือไม่ รังดุมที่เย็บไว้รุ่ยร่าย ทำให้เสื้อผ้าดูไม่มีราคา
 4. สำหรับเสื้อสูท ควรตรวจดูความเรียบร้อยของซับใน และดูว่าแผ่นรองซับในตรงบริเวณรอยต่อแขนเสื้อซึ่งช่วยไม่ให้ซับในบริเวณนั้นขาดง่าย
 5. กระโปรงควรจะมีซับใน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระโปรงที่มีเนื้อผ้าที่อาจจะเสียรูปทรงได้ง่าย เช่น กระโปรงถัก กระโปรงที่ตัดเย็บอย่างดีควรจะมีซับในแยกต่างหากเย็บติดอยู่ด้านใน
 6. ควรตรวจดูตะเข็บว่าแข็งแรงพอที่จะไม่ปริแตกง่ายเวลาสวมใส่ และตะเข็บควรจะเป็นตะเข็บคู่ เพื่อกันไม่ให้รอยเย็บหลุดลุ่ยได้ง่าย
 7. ถ้าใช้ผ้าลาย ควรตรวจดูให้แน่ว่า ลายผ้าต่อกันพอดีตรงรอยตะเข็บ
 8. เลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าเนื้อดีที่สุดเท่าที่คุณจะมีกำลังซื้อได้ จะพูดถึงเรื่องเนื้อผ้าโดยละเอียดอีกครั้ง


3. การเลือกเสื้อผ้าให้รับกับเรือนร่าง


          อ้างอิง http://industrialclothingdesign.com/basic%20de%207Blank.html
 เสื้อผ้าซึ่งตัดเย็บอย่างประณีตแล้วจะไม่มีประโยชน์อันใดหากไม่รับกับเรือนร่างได้อย่างเหมาะเจาะถึงจะเลือกซื้อเสื้อผ้ายี่ห้อดีขนาดไหน แต่ถ้าหลวมหรือคับเกินไปก็จะไม่ช่วยให้ภาพพจน์เด่นขึ้น ขนาดของเสื้อผ้าของแต่ละยี่ห้อจะไม่เหมือนกัน หรือแม้กระทั่งยี่ห้อเดียวกัน แต่ต่างแบบกัน ขนาดก็อาจจะต่างกันไปด้วย ฉะนั้น เมื่อจะเลือกซื้อเสื้อผ้าจะต้องลองสวมก่อนเสมอ
 ในการลองเสื้อผ้า นอกจากจะดูว่าขนาดพอดีกับตัวแล้ว ก็ต้องดูว่าเสื้อผ้านั้นสวมใส่สบายหรือไม่ โดยลองนั่ง ลุก ยืน และเดินไปมา ในขณะเดียวกันก็ตรวจดูคอเสื้อ ไหล่ เอว ความยาวของเสื้อ รอยต่อแขน แขนเสื้อ และความยาวของกระโปรง หรือขากางเกง

เคล็ดลับวิธีทำให้ปากนุ่ม ชุ่มชื้น อมชมพู

 

            ริมฝีปากเรามักจะลอกเป็นขลุยหรือแห้งบ่อยๆ ทำให้ทาลิปไม่สวย สีติดไม่ทน ปากแห้ง ใช่มั้ยคะ
โดนัทมี 2 วิธีง่ายๆ ที่จะทำให้ปัญหาเหล่านั้นหมดไปค่ะ

วิธีแรก

                 ง่ายจริงๆ ค่ะ ใช้เบบี้ออยทาเบาๆ บนริมฝีปากแล้วนวดไปสักพัก เอาผ้าชุบน้ำอุ่นจัดเช็ดออก แล้วอย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดด้วยนะคะ ทาลิปบำรุง เหมือนมาส์กปาก ทาเยอะๆ ทุกคืน


วิธีที่สอง

             คือการสครับปากค่ะ มีวิธีทำสครับง่ายๆ ด้วยตนเอง ของที่ใช้ก็มี วาสลีน หรือลิปบาล์ม น้ำผึ้ง และน้ำตาลค่ะ
วิธีนะคะ เอาน้ำผึ้ง วาสลีน และน้ำตาลมาผสมกัน โดนัทใช้ น้ำผึ้ง 1/4 วาสลีน 1/4 น้ำตาล 1/3 ช้อนชาค่ะ จะทำใส่กระปุกเล็กๆ ก็ได้นะคะ
แล้วเอามาถูที่ปากเบาๆ ประมาณ 1-2 นาที จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นจัดเช็ดออกค่ะ แล้วก็ทำเหมือนวิธีแรกคือมาส์กปากไว้

            แค่นี้เราก็จะมีปากเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น แล้วก็ชมพูสวยๆ โดนัททำวันเว้นวันนะคะ เพราะทำแล้วติดใจ
 
อ้างอิง   http://donutart.blogspot.com/2011/03/blog-post.html

ปัดมาสคาร่าให้ขนตาดูงอนงาม

            ยุคนี้สมัยนี้ เชื่อได้ว่า ไม่มีสาว Chic คนไหนไม่รู้จัก… มาสคาร่า (Mascara) เครื่องสำอางสำคัญตัวหนึ่งที่จะช่วยเติมแต่งขนตา (Eyelash) ทำให้ดวงตาของเรามีเสน่ห์ได้อย่างน่ามหัศจรรย์ขนาดนั้น ด้วยคุณสมบัติของมาสคาร่าที่เมื่อใดเราปัดลงบนขนตา มันจะเพิ่มสีสัน ความเข้ม ความหนา ความยาว และยังจัดเรียงขนตาให้กับเรา สาว Chic หลายคนบอกว่า ปัดมาสคาร่าเรื่องง่ายๆ สบายมาก แต่อีกหลายคนซิคะ บ่นอุบเลยไม่รู้เป็นไง จะปัดมาสคาร่าทีไร มือไม้สั่น ตากระพริบเอาอยู่เรื่อยๆ เอาเป็นว่า ลองฝึกปัดมาสคาร่าให้ขนตาดูงอนงามตามวิธี Chic Biscuit นี้ดู บวกกับความตั้งใจฝึกฝนบ่อยๆ เดี๋ยวก็เป็นมืออาชีพ แบบว่าหลับหูหลับตา ปัดกันได้ทั้งวี่ทั้งวันกันเลยค่ะ 


ก่อนที่จะปัดมาสคาร่า เรามาเข้าใจขนตาของแต่ละคนกันก่อน ขนตาแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ บางคนขนตาสั้น บางคนขนตายาว บางคนขนตาบาง บางคนขนตาหนา บางคนขนตางอน บางคนขนตาเป็นเส้นตรงๆ ดังนั้น เราจะต้องเลือกชนิดของมาสคาร่าและขนแปรงปัดให้เหมาะสมกับขนตาของเราค่ะ
สาว Chic ขนตาสั้น ต้องเลือกมาสคาร่าที่เป็นประเภทมีสายใยไฟเบอร์ที่เพิ่มต่อความยาวขนตา และขนแปรงคล้ายหวีีซี่ถึ่ๆ เพื่อให้ปัดให้ขนตาได้ยาวขึ้น และไม่ม้วนจับตัวกันเป็นก้อนค่ะ
สาว Chic ขนตายาว หรือขนตาเป็นเส้นตรงๆ ให้เลือกมาสคาร่าส่วนผสมที่มีขนแปรงถี่ๆ และมีความโค้ง เพื่อจะได้ปัดให้ขนตาให้งอนงามค่ะ
สาว Chic ขนตาบาง ให้เลือกมาสคาร่าที่เป็นประเภทมีเส้นใยไฟเบอร์ที่เพิ่มความหนา แบบที่เรียกว่าเพิ่มโวลุ่ม (Volume) และขนแปรงกลมๆ จะช่วยปัดเส้นขนตาที่บางๆ หรอมแหร็มให้ดูหนาขึ้นค่ะ
สาว Chic ขนตาหนา หรือขนตางอน ให้ใช้แปรงที่กว้างและหมุนเป็นเกลียวหรือรูปตัว S เพื่อให้มาสคาร่าเกาะกับขนแปรงมากเพียงพอในการปัด ทำให้ปัดมาสคาร่าเคลือบขนตาได้ครบทั่วทุกเส้น และสีสันสม่ำเสมอค่ะ
วิธีปัดมาสคาร่าให้ขนตาดูงอนงาม หลักๆ ก็ดังนี้นะคะ1. ให้สาว Chic มองกระจกนะคะ แล้วหรี่ตาข้างที่เราจะปัดมาสคาร่าลงเล็กน้อย ประมาณว่าทำตาเซ็กซี่ นั่นแหละค่ะประมาณนั้น เพื่อให้เรามองเห็นเส้นขนตาของเราได้อย่างชัดเจน เห็นชัดเจนรึยังคะ ถ้าชัดเจนแล้ว ไปข้อต่อไปเลยค่ะ
2. การปัดขนตาบน ให้เรามองต่ำเข้าไว้ ให้ใช้ขนแปรงที่จุ่มมาสคาร่าพอประมาณ ควรจับแปรงให้ขนาน
กับขนตา ปัดมาสคาร่าช้าๆ ให้เริ่มปัดจากขนตาส่วนที่ชิดติดขอบตาด้านใน ปัดออกไปจนถึงขนตาส่วนปลาย ปัดกดเล็กน้อยให้ขนตางอน ให้ปัดม้วนช้อนขึ้นทั้งด้านบนและด้านล่างของขนตาบนจนครบทุกเส้นค่ะ อาจจะใช้ที่ดัดขนตาเข้่าช่วยก่อนจะปัดมาสคาร่าก็ได้นะคะ ใครที่มีขนตาเส้นตรงๆ ก็จะงอนได้ ใครที่มีขนตางอนอยู่แล้ว ก็จะยิ่งงอนงามแบบที่ต้องการมากขึ้นค่ะ
3. สำหรับขนตาล่าง ก็ให้มองสูงเข้าไว้ เพื่อให้เห็นขนตาล่างชัดเจน โดยปกติขนตาล่างจะสั้นกว่าขนตาบน หากว่าขนตาสั้น หรือสั้นเอามากๆ ปัดยากนะคะ ให้ปัดแนวขวางให้ขนตาหนายาวออกมาบ้าง ก่อนจะปัดลงนะคะ เช่นเดียวกันค่ะต้องปัดทั้งด้านบนและด้านล่างของขนตาล่าง โดยการปัดม้วนลงให้ครบทุกเส้นนะคะ
4. หลังจากนั้น ให้รอสักพัก จึงทำการปัดซ้ำๆ เพื่อเป็นการเน้นขนตาให้ดูหนา สีเข้มขึ้น จัดการปัดให้ขนตาเรียงตัวสวย ไม่จับเป็นก้อน ระวังอย่าปัดเยอะจนเกินไป จะทำให้ขนตาดูกระด้าง ไม่เป็นธรรมชาติค่ะ
5. ถ้ามาสคาร่าเลอะรอบดวงตา ก็ให้ใช้สำลีชุบครีมอายรีมูฟเวอร์ (Eye remover cream)หรือ โลชั่นบำรุงผิว (Lotion) หรือ ออยล์บำรุงผิว (Oil) ค่อยๆ เช็ดออกนะคะ
เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ สำหรับปัดมาสคาร่าให้ขนตาดูงอนงาม

อ้างอิง  http://www.eiei.net/roaddata/2010/04/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1/

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

วิธีแก้รอยคล้ำใต้ตา

สวยและเด้ง แถมสตางค์อยู่ครบ ขอไล่เรียงสรรพคุณของผัก และผลไม้

          1. แตงกวา ช่วยความชุ่มชื่น ลดอาการบวมแดง

          2. กล้วย ช่วยให้ผิวใต้ตานุ่มนวล ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น

          3. มันฝรั่ง มอบความสดชื่น กระจ่างใสให้ดวงตา

          4. แครอท ผสมน้ำผึ้ง ไล่ตีนกาได้ดีนัก

          5. มะเขือเทศ ทำให้ดวงตาสดใส ปิ๊งปั๊ง

          ในการ Test ครั้งนี้ ดิฉันขอเลือกมันฝรั่ง มาลองทำให้ชมดีกว่า เค้าว่ากันว่า ได้ผลรวดเร็ว หยุดรอยคล้ำใต้ตาได้ชัดนัก เพราะมันฝรั่งมีเอนไซม์ (Enzyme) ที่ทำให้สีผิวดูอ่อนจางลงได้ จึงช่วยลดความหมองคล้ำได้ชั่วคราว วิธีนี้จึงเหมาะจะใช้เวลาที่คุณสาวๆ ต้องการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน

พื้นฐานดวงตาทุนเดิมเป็นคนเบ้าตาลึกคะ จึงค่อนข้างคล้ำดำง่ายกว่าคนปกติทั่วไป วิธีทำแสนง่าย

          เลือกมันฝรั่งผลใหญ่หน่อย เพื่อที่เวลาฝานจะได้ปิดตาได้มิดไงละ และล้างผลมันฝรั่งให้สะอาด จากนั้นฝานให้บางๆ นำมาแปะดวงตาประมาณ 15-20 นาที นอนหลับไปเลยได้ยิ่งดีเพื่อพักผ่อนสายตาจากการเหนื่อยล้า

หากแช่มันฝรั่งในตู้เย็นยิ่งดีใหญ่ ช่วยลดปัญหาตาบวมได้ แถมสดชื่นอีกด้วยคะ เมื่อฝานโปะเสร็จปรากฏว่า
          หลังจากแปะมันฝรั่งครบ 15-20 นาทีแล้ว ดูผ่านๆ อาจจะเห็นผลไม่ค่อยชัดนัก (แหม ก็เราไม่นิยมรีทัชหลอกคนอ่านนี่นา) แต่ดูดีๆ สีคล้ำจะจางลงหน่อย ทั้งนี้อาจเพราะทำแค่ครั้งแรก และครั้งเดียว ทว่าหากไม่ขี้เกียจ หมั่นทำประจำสม่ำเสมอคงดีแน่ เพราะแค่ครั้งแรกยังรู้สึกถึงความชุ่มชื่น มีชีวิตชีวาบริเวณผิวรอบดวงตา เย็นๆ ตึงๆ ตาสว่างสดชื่น เนื่องจากน้ำจากมันฝรั่งทำให้ตาชุ่มชื่น

          บางท่านไปลองทำ อาจรู้สึกคันยุบยิบเล็กน้อย แต่ห้ามเอามือไม่เกานะคะ เพราะตำราบอกไว้ว่าจะรู้สึกยิบนิดๆ ซึ่งไม่เป็นผลร้ายอะไร

          เราตั้งใจว่าจะทำเองสม่ำเสมอแล้วล่ะ ก็ของดีหาง่ายในครัวไม่ต้องสรรหาจากแดนไกล ว่างๆ ท่านผู้อ่านลองทำดูได้นะคะ ของธรรมชาติคะไม่มีการแพ้แต่อย่างใด


วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

การดูแลรักษาเล็บมือให้สุขภาพดี

  • การล้างทำความสะอาดเล็บ ควร ล้างมือและเล็บด้วยน้ำสบู่อุ่น ๆ ใช้แปรงนุ่ม ๆ ขัดตามซอกเล็บเบา ๆ และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ชโลมด้วยครีมบำรุง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับมือและเล็บ
  • การตัดเล็บมือที่ถูกต้อง ควร ตัดให้มีความโค้งมนไปตามนิ้วมือ ส่วนเล็บเท้านั้น พยายามตัดให้เป็นเส้นตรงมากที่สุดเพื่อลดการสะสมของความสกปรกตามซอกเล็บและ โอกาสเกิดเล็บขบ ไม่ควรตัดสั้นจนชิดเนื้อมากเกินไป และไม่ควรใช้วัสดุใด ๆ แงะงัดขอบเล็บ จมูกเล็บ เพราะอาจเกิดบาดแผลและการอักเสบได้
  • เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการตัดเล็บ คือ หลังจากอาบน้ำ หรือล้างจาน เพราะเล็บจะมีความอ่อนนุ่ม ทำให้ง่ายต่อการตัดแต่ง แต่ถ้าหากไม่รอหลังอาบน้ำให้แช่เล็บในน้ำอุ่น สัก 5 นาทีก่อนตัดเล็บ
  • ตะไบเล็บให้สวย ถ้า หากใช้ตะไบเล็บที่ทำจากเหล็ก ควรตะไบเล็บไปในทิศทางเดียว ไม่ควรถูกลับไปกลับมา เพราะจะทำให้เล็บเป็นเสี้ยนคมหรือฉีก แต่ถ้าใช้ตะไบเล็บที่ทำจากเซรามิคสามารถตะไบสวนทางกันได้ นอกจากนี้ การตะไบเล็บควรตะไบจากขอบเล็บเข้าหาปลายเล็บเสมอ
อย่าลืมดูแลรักษาเล็บ ให้สวย สะอาดอยู่เสมอ นะคะ ^-^

อ้างอิง  http://sakid.com/2009/06/08/14012/